📣 บทความนี้แปลเป็นภาษาไทยโดย ChatGPT ต้นฉบับเป็นภาษาจีน สามารถดูได้ที่ นี่ หากมีส่วนใดที่แปลได้ไม่ดีพอ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

By Gogo (果果)
(มีสปอยล์ โปรดระวัง โพสต์ยาว)
ในโลกของซีรีส์วายหญิงไทยที่เต็มไปด้วยดราม่าเข้มข้นและความรักที่เต็มไปด้วยปัญหา
US the Series เป็นเหมือนแสงอ่อน ๆ ที่อบอุ่นและอ่อนโยน
นักแสดงนำหญิงทั้งสองคนที่แฟน ๆ เรียกว่า “EmiBonnie”
แสดงเคมีที่เป็นธรรมชาติและละมุนอย่างยิ่ง จนแฟน ๆ หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในคู่รักวายหญิงที่รู้สึกเหมือนจริงและซึ้งใจที่สุดในประวัติศาสตร์ซีรีส์ไทย
ความสัมพันธ์ของพวกเธอเต็มไปด้วยความหวาน
แต่ในขณะเดียวกันก็มั่นคงและโตเป็นผู้ใหญ่
มีฉากจูบสุดประทับใจมากมาย และแววตาแห่งความรักที่ตราตรึง
จนคนดูหลายคนถึงกับเอ่ยว่า “อยากมีความรักเลยแฮะ”


ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ใช้พล็อตหวือหวาหรือดราม่าเพื่อดึงดูดคนดู
แต่มัดใจเราด้วยปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน ความเข้าอกเข้าใจ และอารมณ์ความรู้สึกที่ค่อย ๆ พัฒนาอย่างจริงใจ
เส้นเรื่องหลักพูดถึงความรัก
แต่ยังสอดแทรกเรื่องครอบครัวไว้อย่างอบอุ่น และบางครั้งก็มีมิตรภาพผ่านเข้ามา
Bonnie (Pattraphus Borattasuwan) รับบทเป็น DokRak พนักงานร้านกาแฟและนักร้องประจำบาร์
ที่ตกหลุมรัก Pam ทันทีที่เจอ—Pam รับบทโดย Emi (Thasorn Klinnium) นักศึกษาแพทย์ทันตกรรม
พวกเธอพาคนดูร่วมเดินทางผ่านความรู้สึกตั้งแต่แอบชอบ มีใจให้กัน แสดงความรัก เปิดเผยตัวตน สูญเสีย และสุดท้ายแต่งงานกัน
เรื่องราวทั้งหมดคือเส้นทางแห่งความรักที่สวยงาม
ตอนที่ 1–6 คือช่วงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกก้ำกึ่งและการสับสนในใจ
ตอนที่ 7–8 หวานหนักมาก
ตอนที่ 9–11 แสดงให้เห็นว่าพวกเธอจับมือกันผ่านความกดดันในชีวิตได้อย่างไร
จนกระทั่งถึงตอนจบ ตอนที่ 12 แม้จะต้องห่างกันแต่ก็ยังส่งความคิดถึงผ่านโปสการ์ดและวิดีโอคอลให้กันเสมอ
สุดท้ายได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข เหมือนคู่แต่งงาน
สิ่งที่ต้องชมมาก ๆ คือ Pam กับ Rak แทบจะเป็นต้นแบบของคู่รักวายหญิงที่มีสุขภาพใจดีและมั่นคงที่สุดในจักรวาลซีรีส์ไทยเลยก็ว่าได้
พวกเธอไม่เข้าใจผิดกันง่าย ๆ
กล้าพูด กล้ารับฟัง
และทุกครั้งที่มีอุปสรรคเข้ามา
พวกเธอเลือกจะปกป้องกันและกันอย่างไม่ลังเล และยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก
มันคือความรักที่เติบโตและแข็งแรง
💋 หนึ่งในฉากจูบที่ซึ้งกินใจที่สุดของวายหญิงไทย
เส้นเรื่องความรักใน US สมบูรณ์แบบมาก มีเลเยอร์ลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่
หลายฉากคือโมเมนต์ที่คนดูอยากวนกลับไปดูซ้ำอีกหลายรอบ
ไม่ว่าจะเป็นฉากวิ่งกลางสายฝนและจ้องตากันในตอนที่ 1
หรือฉากในตอนที่ 2 ที่ Rak อุ้มกีตาร์มาร้องเพลง
แล้ว Pam ก็นั่งฟังพร้อมหัวใจเต้นแรง…
คนดูค่อย ๆ ถูกสายตา ลมหายใจ และท่าทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทั้งสอง
ดึงเข้าไปอยู่ในโลกสองคนของพวกเธอ
มันเหมือนกับคู่รักในอดีตชาติที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
ไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกัน
ในบรรดาฉากที่ใกล้ชิดทั้งหมด
ไม่มีฉากไหนจะตราตรึงเท่าฉากจูบในตอนที่ 3 หลังจากที่ Rak เมา
ถือว่าเป็นหนึ่งในฉากจูบที่สวยและซึ้งที่สุดในวายหญิงไทย
หลังจากเมา Rak เผยความในใจ และขอร้อง Pam อย่างหมดเปลือก
ว่าอย่าเกลียดเธอเลย พร้อมเอาหัวพิงหน้าอก Pam ซ้ำแล้วซ้ำอีก
Pam ที่พยายามกลั้นความรู้สึกไว้ ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เธอจูบ Rak ด้วยแรงขับเคลื่อนจากหัวใจ—ไม่ใช่สมอง
เหมือนเขื่อนอารมณ์พังทลายลงในวินาทีนั้น
ตอนแรก Rak ผงะเล็กน้อย สับสน งง
แต่เมื่อ Pam โน้มหน้าเข้ามาจูบอีกครั้ง Rak ก็จูบตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
จังหวะนั้น เสียงหัวใจเต้นดังแทรกเข้ามาแทนคำพูด
ในอากาศเหลือแค่ “ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านร่างกาย”
เป็นช่วงเวลาที่มีแต่พวกเธอสองคนล่องลอยอยู่ด้วยกัน
Emi แสดงอารมณ์ของ Pam ได้อย่างละเอียดสุด ๆ — จากการพยายามกลั้นใจ ถอนหายใจ แล้วก็จูบอย่างหมดใจ
ก่อนจะรู้สึกตกใจตัวเองและพูดออกมาทั้งน้ำตา “นี่… ฉัน…”
ส่วน Bonnie ก็ใช้สายตาแสดงความเจ็บปวด ความสับสน ความหลงใหลได้อย่างลึกซึ้ง
เป็นการแสดงที่ทั้งสองคนส่งพลังให้กันจริง ๆ
ซีรีส์มีทั้งหมด 12 ตอน
แต่กลับมีเพียงตอนที่ 1, 2 และ 5 เท่านั้นที่ไม่มีฉากจูบ
และที่สำคัญ—ส่วนใหญ่ของฉากใกล้ชิด เป็นการ “เล่นสด” หรือด้นสดทั้งหมด
แต่กลับเป็นธรรมชาติสุด ๆ
เหมือนคู่รักจริง ๆ ที่ไม่ได้แสดง แต่ “รู้สึกอยู่จริง”
ฉันเชื่อว่าในตอนที่ถ่ายทำ EmiBonnie มีอารมณ์ร่วมกับบทจริง ๆ
ร่างกายของพวกเธอขยับไปตามหัวใจ ไม่ใช่บทสั่ง
รายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านั้น สอนกันไม่ได้ แต่ “รู้สึกได้”
ตัวอย่างที่ชัดเจนมากคือฉากจูบกินแตงโมในตอนที่ 7
ในบทเขียนไว้แค่ว่า “กินแตงโมอย่างน่ารัก”
แต่ EmiBonnie ด้นสดกลายเป็นฉากจูบที่แทบจะหยุดไม่ได้
หวานมากกกกกกกก!
(ทั้งหมดเป็นการแสดงสดนะ! ไปดู คลิป แล้วจะเข้าใจเลย~)
ฉันตกหลุมรักลูกสาวของคนที่ทำให้พ่อแม่ฉันตาย
ความสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นมาตั้งแต่แรก
Rak เป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ร่ำรวย
แต่เพราะครอบครัวไม่อบอุ่น เธอจึงเลือกออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
ส่วน Pam สูญเสียพ่อแม่ไป และแบกแผนการแก้แค้นไว้ในใจ
เธอจึงจงใจเข้าใกล้ Rak และครอบครัวของเธอ
จากความแค้นไปสู่การให้อภัย
จากการหลอกลวงไปสู่ความซื่อตรง
เนื้อเรื่องค่อย ๆ ทับซ้อนกันอย่างนุ่มนวลและแข็งแกร่ง
ก่อเกิดเป็น “ความรักที่มีทั้งบาดแผลและการเยียวยา”
ความท้าทายที่ Pam และ Rak ต้องเผชิญมีอยู่ 3 ข้อหลัก ๆ:
1. Rak มีความลังเลและปฏิเสธตัวเองในเรื่องความรักเพศเดียวกัน
2. Rak แอบรัก Pam แต่เพราะไม่มั่นใจ จึงช่วยพี่ชายตัวเอง (Kawi) ตามจีบ Pam แถมยังทำให้ Pam กับ Kawi ได้คบกัน
กลายเป็น “ฉันตกหลุมรักแฟนของพี่ชายตัวเอง”
3. พ่อของ Rak เป็นสาเหตุ间接ที่ทำให้พ่อแม่ของ Pam เสียชีวิต
และเมื่อ Pam หันมารักกับ Rak ก็กลายเป็น “ฉันตกหลุมรักลูกสาวของคนที่ฆ่าพ่อแม่ฉัน”
ฟังดูเหมือนจะเข้มข้นมากใช่ไหม?
แต่ในความจริง ซีรีส์เรื่องนี้เลือกจะไม่ใส่ดราม่าหนัก
ทุกปมใหญ่ ๆ ถูกคลี่คลายอย่างนุ่มนวล
เข้าใจกันได้ไว ให้อภัยกันเร็ว
บ่อยครั้งที่คำพูดดี ๆ หรืออ้อมกอดแผ่ว ๆ ก็เพียงพอแล้ว

ดู EmiBonnie ตกหลุมรัก หวานกว่าการมีแฟนเองอีกอะ
เมื่อความสัมพันธ์พัฒนาลึกขึ้น
เรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันก็กลายเป็นโมเมนต์สุดละมุน เช่น
- จูบปลุกตอนเช้า
- ถามเขิน ๆ ว่า “อาบน้ำด้วยกันไหม”
- ลงโทษแฟนด้วยการหอมแก้ม
ทุกฉากเหมือนความรักในชีวิตจริง
และในขณะเดียวกันก็เหมือนฝันที่สวยงาม
เราดูสองคนนี้ “ตกหลุมรักอย่างควบคุมไม่ได้”
หลงกันหนักขึ้นเรื่อย ๆ
รักจนไม่อยากห่างกันเลยแม้แต่นาทีเดียว
คนดูอย่างเราก็ยิ้มตามไม่หยุด
และรู้สึกว่า “ฉันก็อยากมีความรักแบบนี้บ้าง”
ดู EmiBonnie ตกหลุมรัก หวานกว่าการมีแฟนเองอีกอะ 😭
ส่วนพล็อตดราม่าหนัก ๆ ที่ดูเหมือนจะปูไว้
ก็โดนพลังของความละมุนกลบไปหมด
เหมือนจะมี แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจแล้ว 555
แม้ว่าโครงเรื่องจะไม่เข้มข้นมาก
3 ตอนสุดท้ายอาจไม่เร้าใจเท่า 9 ตอนแรก
(แต่ย้ำว่า ทุกตอนยังมีความหวานอยู่นะ!)
แต่ในบรรดาซีรีส์วายหญิงไทย
ที่พล็อตมักจะหลวม ๆ หรือตัดต่อแปลก ๆ
US คือหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ “กลมกล่อม” และ “มีคุณภาพจริง ๆ”
เนื้อเรื่องจบครบ มีที่มาและที่ไป
ไม่มีดราม่าเกินเหตุ ไม่มีพฤติกรรม toxic
นักแสดงทุกคนเล่นดีมาก ดูแล้วรู้สึกสบายใจ อบอุ่นหัวใจ
มันคือเรื่องราวความรักของผู้หญิงกับผู้หญิง
ที่เรียบง่ายแต่จริงใจ
ค่อย ๆ พาเราเดินเข้าสู่โลกที่มีแต่ความเข้าใจและความรัก
เรื่องราวสายสัมพันธ์ในครอบครัวก็อบอุ่นมาก
ฉากระหว่าง Pam กับคุณยายของเธอทุกฉาก
อบอุ่นและน่ารักมาก
ในขณะเดียวกัน ฉากที่ Rak ได้กอดแม่และปรับความเข้าใจกัน
ก็ซึ้งมากจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
ส่วน Nene ก็… ฮาแบบไม่ตั้งใจ 😂
ในฐานะลูกลับ ๆ ของพ่อ Rak
เธอพยายามสร้างปัญหาในครอบครัว
ยุให้ Kawi เข้าใจผิด
พยายามใส่ไฟให้ Rak เลิกกับ Pam
แต่…
- Kawi ก็ไม่หลงเชื่อ
- Rak ก็ยังมั่นคงกับ Pam
- แม่ของ Rak ก็ยังห่วงใย Nene อย่างนุ่มนวล
ถึงขั้นถามว่า “หนูเหนื่อยไหมลูก”
เหมือนกับทุกหมัดของ Nene ต่อยใส่ก้อนเมฆ
ไร้แรงสะเทือนใด ๆ 55555
EP12 – การจากลา การกลับมา และการโอบกอด
ในตอนที่ 12
คนดูได้เห็น Pam พาคุณยายเดินทางถึงปลายทางของชีวิต
เมื่อคุณยายเสียชีวิตอย่างสงบ
Pam เจอ Rak อีกครั้งในงานศพ
เธอพยายามเข้มแข็งมาตลอด
แต่เมื่อเห็นหน้า Rak เท่านั้น
อารมณ์ก็พังทลายลงทันที
เธอโผเข้าไปกอดอีกฝ่าย
ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหมดแรง
Rak ก็โอบกอดเธออย่างเข้าใจ
ไม่มีคำพูด
มีแค่ความรู้สึกที่ถ่ายทอดถึงกันอย่างลึกซึ้ง
ฉากนี้คือหนึ่งในฉากที่กินใจที่สุดของทั้งเรื่อง
4 ปีต่อมา – ชีวิตหลังแต่งงานที่หวานแบบเบา ๆ
4 ปีผ่านไป
Pam และ Rak แต่งงานและอยู่ด้วยกันแล้ว
ใช้ชีวิตเรียบง่าย
ทำงานอาสา
และยัง “หวานเหมือนวันแรกที่รักกัน”
มีเด็กนักเรียนมาถามว่า
“พวกคุณเป็นแฟนกันเหรอคะ?”
พวกเธอยิ้ม
โชว์แหวนแต่งงาน
ตอบอย่างภูมิใจว่า:
“ใช่ค่ะ พวกเราแต่งงานกันแล้ว~”
นอกจากจะหวานมากกกก
ยังสะท้อนแนวคิดเรื่อง “ความรักที่เท่าเทียม” ได้อย่างอบอุ่นใจ

🎬 งานศิลป์คุณภาพระดับหนังอาร์ต
ขอพูดเรื่อง “งานโปรดักชัน” หน่อย
พูดจริง ๆ นะ…
ซีรีส์วายหญิงควรให้ผู้หญิงที่เป็น LGBTQ+ เป็นผู้กำกับ
เพราะเธอเข้าใจมิติของ “ความใกล้ชิดระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง” ได้อย่างลึกซึ้ง
ผู้กำกับ Kanittha Kwunyoo
(ที่แฟน ๆ เรียกกันว่า “แม่พระผู้กำกับ”)
มีสไตล์การกำกับที่อบอุ่นและละเอียดอ่อน
เคยกำกับเรื่อง 23.5 ที่หลายคนชื่นชอบ
ใน US
เธอจับอารมณ์ของตัวละครด้วยกล้องที่ “อ่อนโยนเหมือนสายลม”
แสงเงาเหมือนภาพวาด
ทุกฉากดูเหมือนหนังศิลป์
ดนตรีประกอบคือ “หัวใจ” ของซีรีส์เรื่องนี้
โดยเฉพาะฉากจูบตอนเมาใน EP3
เพลง “Like a Bird” ดังขึ้นในจังหวะพอดี
แทรกเข้าไปในอารมณ์จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
เพลงประกอบทั้งเรื่องคือ:
- 🎵 เพลงเปิด “Kissin’ Out of Dream”
- 🎵 เพลงแทรก “Between Us”
- 🎵 เพลงจบ “More than Words”
แต่ละเพลงสื่อถึงอารมณ์ของตัวละครได้เป๊ะมาก
และพิเศษกว่านั้น
ทั้งสามเพลงร้องโดย Emi และ Bonnie เอง
ซึ่ง…
Emi คือราชินีเพลงของซีรีส์วายหญิงไทยแล้วค่ะ!
เสียงของเธอคือเทวดาลงมาเกิด:
- เสียงต่ำ นุ่มและอบอุ่น
- เสียงกลาง หวานและมีพลัง
- เสียงสูง พุ่งทะลุหัวใจ
- เปลี่ยนคีย์ ลื่นไหล นุ่มนวล
ระดับโปรนักร้องอาชีพเลย
เพลง “More than Words”
กลายเป็น MV เพลงประกอบที่มียอดวิวทะลุล้านเร็วที่สุดในซีรีส์วายหญิงไทย
- 6 วัน: ทะลุ 1 ล้าน
- 13 วัน: ทะลุ 2 ล้าน
- 26 วัน: ทะลุ 3 ล้าน
ระดับปรากฏการณ์เลยค่ะ!
แค่จ้องตาก็เหมือนจูบทางจิตวิญญาณ
ขอชมการแสดงของ Emi กับ Bonnie แบบสุดใจอีกที
นี่เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่พวกเธอได้เป็นนักแสดงนำ
แต่ทุกฉากที่จ้องตากัน สัมผัสกัน
เหมือนคู่รักจริง ๆ ที่ไม่ได้ “แสดง” แต่กำลัง “รู้สึก” อยู่จริง
ฉากที่ใกล้ชิดระหว่างพวกเธอ
ไม่หวือหวา ไม่พยายาม
แต่กลับ หวานจนเข้าไปถึงใจคนดู
หลาย ๆ ครั้ง
แค่จ้องตากัน
ก็เหมือน “จูบกันด้วยหัวใจ” แล้ว
เคมีคู่จิ้นแรงมากกกกกก 💥
และสิ่งที่ยิ่งกว่า…
ชีวิตจริงนอกจอของ EmiBonnie หวานกว่านี้อีกค่ะ!
🌙 ความสัมพันธ์ของสองคนนี้… คือโชคชะตา
มีคนบอกว่า ดาวของ Emi กับ Bonnie
คือ “ดาวแห่งพรหมลิขิต”
ดวงจันทร์ของทั้งคู่คือเมษ
ดาวศุกร์ก็เป็นราศีมีนเหมือนกัน
ซึ่งหมายความว่า…
- เข้าใจกันง่าย
- สื่อสารกันได้โดยไม่ต้องพูด
- มีพลังความผูกพันแบบลึกมาก
มันคือคนที่หาได้ยาก
และถ้าได้เจอแล้ว
เราจะรู้สึกทันทีว่า
“ไม่มีใครแทนคนนี้ได้”
ไม่แปลกเลยที่ฉันจะรู้สึกตั้งแต่แรกว่า
พวกเธอเหมือน “คู่รักจากชาติที่แล้วที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง”

📰 คำพูดจากใจของทั้งสองคน
ในคอลัมน์ Crush ของนิตยสาร ELLE Thailand ฉบับมีนาคม 2025
Emi เคยพูดว่า:
“มีฉากหนึ่งที่เราต้องพูดว่า ‘ถ้าไม่มี DokRak เราจะอยู่ยังไง’
แต่ในหัวของเราคิดถึงแต่
‘ถ้าไม่มี Bonnie เราจะอยู่ยังไง’
แล้วเราก็ร้องไห้ออกมาเลย…”
ส่วนในงานแฟนมีตอำลา US เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025
Bonnie ก็พูดพร้อมน้ำตาว่า:
“P’Mi เป็นเหมือนพี่สาว เป็นเหมือนเพื่อน
เป็นทุกอย่างของเราเลยค่ะ
เธอเข้าใจเราทุกอย่าง
อยู่ข้างเราทุกเรื่อง
ฟังทุกคำพูดของเรา
เราไม่รู้ว่าจะหาคนแบบ P’Mi ได้จากที่ไหนอีกแล้ว
เราคุยได้ทุกเรื่อง
เธอเปิดใจให้เราเสมอ
เราขอบคุณเธอจริง ๆ นะคะ…”
ทุกอย่างเลยเหรอ…
ขาดเธอไม่ได้เหรอ…
จะไม่ให้จิ้นได้ยังไงไหวคะคุณ! 😭💘
👫 คู่รักในซีรีส์ที่กลายเป็น “คู่รักในใจ”
แถมเวลาสองคนนี้ให้สัมภาษณ์ด้วยกันนะ
คือ…
- ชอบแกล้งกัน
- ชอบพูดคุยกันจนลืมพิธีกร
- อยู่ในโลกของกันและกัน
- แล้วก็… Bonnie แทบไม่มองกล้องเลย
เพราะเธอ “มอง Emi ตลอด”
สายตาที่ทั้งอ่อนโยน
ทั้งเหมือนแฟนคลับ
ทั้งเหมือนเพื่อนสนิทที่แอบรักเพื่อน!
คลิปสัมภาษณ์ของ EmiBonnie น่าดูมาก
แนะนำให้ดู รวมคลิปใน bilibili นี้เลย
แล้วคุณจะเข้าใจว่า…
พวกเธอ “หน้าเหมือนเมีย” กันแล้วจริง ๆ
💌 จดหมายรักถึง “US” และ EmiBonnie
เขียนมาถึงตรงนี้แล้วรู้ตัวว่า…
เราพูดถึง EmiBonnie เยอะมากเลย 5555
แต่ก็อดไม่ได้นี่นา
พวกเธอน่ารักกันขนาดนี้
เราศึกษา ดูสัมภาษณ์ และตกหลุมรักพวกเธอไปเต็ม ๆ แล้ว
แต่กลับมาที่ซีรีส์เรื่องนี้กันอีกครั้ง
US ไม่ใช่แค่ซีรีส์รักหวาน ๆ
แต่มันคือเรื่องราวที่เยียวยาหัวใจ
อ่อนโยน
และน่าหลงรักมาก
เป็นซีรีส์ที่อยากหยิบมาดูซ้ำ
อยากส่งต่อให้คนที่เรารัก
อยากให้ทุกคนได้รู้จักความรักแบบนี้
ถ้า US คือซีรีส์วายหญิงเรื่องแรกของคุณ
คุณโชคดีมาก
แต่ถ้าไม่ใช่
มันอาจจะทำให้คุณ “เชื่อในความรักอีกครั้ง” ก็ได้
ขอบคุณ EmiBonnie
ขอบคุณ US
ที่ทำให้เรา “อยากมีความรัก” อีกครั้ง
(ป.ล. เราใช้เวลานานมากในการเขียนบทความนี้
แก้แล้วแก้อีก
เหมือนกับเป็นจดหมายรักฉบับหนึ่งที่เขียนถึงช่วงเวลา 2 เดือนของการตามซีรีส์
เรารัก US และรัก EmiBonnie มากจริง ๆ ค่ะ)
#USTheSeries
#EmiBonnie



